Livio 1600
Livio 1600 เป็นเครื่องช่วยฟังระบบดิจิตอลแบบไร้สาย ผลิตโดยบริษัท Starkey ประเทศสหรัฐอเมริกา
คุณสมบัติที่สำคัญ
Thrive Platform
ใช้วงจรประมวลผลสัญญาณเสียงระบบดิจิตอลไร้สายรุ่นไทรฟว์ (Thrive) ซึ่งพัฒนามาจากวงจร Synergy ในรุ่นก่อนหน้า มีระบบการทำงานแบบ multi-core twin compressor และใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุระบบคู่ ประกอบด้วยคลื่นวิทยุความถี่ 2.4 GHz และคลื่นวิทยุ NFMI (dual radio technology) ร่วมกับเซ็นเซอร์อัจฉริยะและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์* (Artificial Intelligence หรือ AI) ในรุ่น Livio AI เพื่อให้ได้คุณภาพของเสียงและการเชื่อมต่อไร้สายที่มีประสิทธิภาพที่สุด แม้ในสิ่งแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก
Thrive Hearing Control app
สามารถใช้แอพพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ปรับและควบคุมเครื่องช่วยฟังรุ่น Livio โดยเฉพาะ สำหรับเครื่องช่วยฟังรุ่น Livio AI จะมีการวัดคะแนนที่เป็นค่าบ่งชี้สุขภาพโดยรวมของท่าน มีการรวมคะแนนของการเคลื่อนไหวของร่างกายและการทำงานของสมองเข้าด้วยกัน (Thrive Wellness Score) และในอนาคตจะมีฟังก์ชันตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ*
Self Check
มีฟังก์ชันตรวจสอบการทำงานของเครื่องช่วยฟังอัตโนมัติแบบพื้นฐาน เช่น กรณีที่เครื่องช่วยฟังไม่มีเสียง หรือมีชิ้นส่วนใดชำรุด ( ไมโครโฟน / ตัวแปลงสัญญาณเสียง / วงจรไฟฟ้า / เซ็นเซอร์ ) โดยผู้ใช้สามารถทดสอบได้ด้วยตนเองในแอพพลิเคชัน
Telehealth Service: Hearing Care Anywhere
มีบริการติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินทางไกล ผู้ใช้สามารถส่งคำขอให้ผู้เชี่ยวชาญฯปรับเครื่องช่วยฟังผ่านทางแอพพลิเคชันได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาพบที่คลินิก
Channels/Bands
ความละเอียดของสัญญาณเสียงและการปรับความถี่เสียงแบบ Fine Tuning ได้ 16 Channels 16 Bands
Bandwidth
ขยายเสียงความถี่สูงได้สูงสุดถึง 10 กิโลเฮิรตซ์
Hearing Reality: การได้ยินเสมือนจริง
Speech Optimization สตาร์กี้ได้พัฒนาระบบขยายเสียงแบบ multi-section compression เพื่อช่วย ให้คนไข้ได้ยินเสียงพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนมาก และฟัง สบายหูมากขึ้น
Music Optimization ระบบขยายเสียงดนตรีหรือเสียงเพลงที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรับ สัญญาณเสียงเข้าที่หลากหลาย และตอบสนองต่อความถี่เสียงที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญยังสามารถ ปรับแต่งเสียงได้ในซอฟต์แวร์ Inspire X เพื่อให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนได้
Ear-to-Ear Technology เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลสัญญาณเสียงระหว่างเครื่องช่วยฟังทั้ง สองข้างให้มีความสมดุลกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดเสียงรบกวนทั้งสองข้าง การรับส่ง สัญญาณเสียงที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม และการับเสียงของไมโครโฟนทั้งสองข้าง
Environment Manager (Acuity Lifescape Analyyzer) เป็นระบบค้นหา วิเคราะห์ และจัดการ เสียงต่างๆที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในสิ่งแวดล้อมที่เสียงดังรบกวนมาก ประกอบไปด้วย ระบบจัดการเสียงอัตโนมัติ 7 ประเภท ได้แก่ เสียงดนตรี (music), เสียงพูด (speech), เสียงพูดในที่ เสียงรบกวน (speech in noise), เสียงรบกวนประเภทเครื่องจักร (machine noise), เสียงลม (wind), เสียงรบกวนทั่วไป (noise) และเสียงรบกวนในที่เงียบ (quiet) โดยระบบสามารถจัดการกับเสียง รบกวนในสิ่งแวดล้อมหลายประเภทพร้อมกัน
Sound Manager
มีระบบจัดการคุณภาพเสียง Sound Manager สำหรับการฟังเสียงพูดในที่เสียงรบกวน (Speech in Noise) และ การฟังในที่เงียบ (Quiet)
Directional Processing
มีระบบไมโครโฟนรับเสียง Directionality ชนิดปรับการทำงานอัตโนมัติพร้อมกันในหลายช่องสัญญาณเสียง (multichannel adaptive directionality) และประมวลผลสัญญาณเสียงได้อย่างอิสระพร้อมกันใน 16 Channels
การประมวลผลสัญญาณเสียงของไมโครโฟนรับเสียงชนิด Directional ที่มีไมโครโฟน 2 ตัว สามารถปรับโหมดได้เองอัตโนมัติตามสิ่งแวดล้อมของเสียง ได้แก่ Adaptive / Dynamic / Directional / Omnidirectional
Spatial Speech Enhancement
มีระบบช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงพูด โดยมีการประมวลผลสัญญาณเสียงที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม 167 ครั้งต่อวินาที เพื่อแยกแยะและวิเคราะห์ชนิดและความดังของเสียงต่างๆ จากนั้นระบบจะเน้นขยายเฉพาะสัญญาณเสียงพูดที่ปรากฏ และลดเสียงรบกวนลง
Transient Noise Reduction
ปรับลดเสียงรบกวนที่เป็นเสียงกระแทกให้อยู่ในระดับที่ไม่ดังจนเกินไป
Feedback Management
มีระบบตัดเสียงหวีดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของบริษัทสตาร์กี้ สามารถจัดการกับเสียงหวีดได้ทุกรูปแบบให้เหมาะสมกับวิถีการฟังของแต่ละบุคคล เนื่องจากได้รับการออกแบบมาให้สามารถชี้เฉพาะ แยกประเภท และกำจัดเสียงหวีดรบกวนที่เกิดขึ้นในทุกสถานการณ์ เกิดขึ้น แยกเสียงหวีดออก และกำจัดเสียงหึ่งและเสียงหวีดรบกวนนั้นออกไป
Frequency Lowering
มีระบบช่วยเพิ่มความสามารถในการได้ยินตามเวลาที่เสียงเกิดขึ้นจริง (Real-time Audibility) โดยการค้นหาสัญญาณเสียงพูดความถี่สูง ( high frequency speech cues ) แล้วสร้างขึ้นใหม่ในช่วงความถี่ที่ต่ำกว่า ช่วยให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีและเพิ่มความชัดเจนของเสียงพูดที่ความถี่สูง
CROS System
มีตัวเลือกที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินข้างเดียว (unilateral hearing loss) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการได้ยินและการฟังเข้าใจคำพูด
Multiflex Tinnitus Technology
เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเสียงดังในหู โดยมีการออกแบบให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล
Surface NanoShield
มีระบบป้องกันความชื้นที่ทำด้วยวัสดุเคลือบผิวแบบนาโน เคลือบที่เคสของเครื่องช่วยฟัง ชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องช่วยฟัง และตัวป้องกันขี้หู Hear Clear เพื่อช่วยป้องกันความชื้น ขี้หู และคราบน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เครื่องช่วยฟังมีความทนทาน ลดปัญหาการส่งเครื่องช่วยฟังซ่อมบ่อย
Starkey Hearing Technologies Accessories
มีเทคโนโลยีระบบไร้สาย 2.4 GHz + NFMI Technology ในการเชื่อมต่อเครื่องช่วยฟังกับอุปกรณ์เสริมระบบ ไร้สาย Starkey Hearing Technologies Accessories ได้แก่ TV Adapter, Remote Microphone+, Mini Remote Microphone และ Remote