แชร์

เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัยเมื่อคุณมีปัญหาการได้ยิน

อัพเดทล่าสุด: 5 เม.ย. 2024
80 ผู้เข้าชม
เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัยเมื่อคุณมีปัญหาการได้ยิน

#เกร็ดความรู้เรื่องการได้ยินกับออดิเมด
#เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัยเมื่อคุณมีปัญหาการได้ยิน 

#คุณใช้การได้ยินมากแค่ไหนในขณะขับรถ? บางทีอาจจะมากกว่าที่คุณคิด แม้ว่าสายตาจะเป็นประสาทสัมผัสที่สำคัญที่สุดเมื่อคุณได้นั่งลงที่หลังพวงมาลัย แต่คุณทราบหรือไม่ว่าการได้ยินช่วยให้คุณได้ยินเสียงสัญญาณต่างๆ เช่น ไซเรนรถพยาบาล แตรรถ และเสียงเตือนต่างๆ แม้ว่าการสูญเสียการได้ยินอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบมากต่อการขับรถของคุณ แต่การได้ยินมีประโยชน์ในเรื่องของการช่วยระมัดระวังต่างๆได้มากขึ้น

ในปัจจุบันเทคโนโลยี #เครื่องช่วยฟัง มีความก้าวหน้ามากขึ้น โดยไมโครโฟนของเครื่องช่วยฟังที่ทำหน้าที่รับเสียง สามารถแยกแยะระหว่างสัญญาณเสียงพูดและเสียงรบกวนได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณขับรถคุณก็คงอยากจะตัดสิ่งรบกวนต่าวๆออกให้มากที่สุด เราจึงมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆมาฝาก ดังนี้

1. ลดระดับเสียงเพลงหรือวิทยุ เพื่อหลีกเลี่ยงการฟังเสียงดังรบกวน และช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้นในการขับรถ และสามารถได้ยินสัญญาณเสียงอื่นๆได้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของคุณ

2. ปรับกระจกให้เป็นมุมมองที่กว้างขึ้น (wide-angle) เพื่อป้องกันการเกิดจุดบอด (blind spots)

3. หากคุณผู้โดยสารในรถ คุณควรหลีกเลี่ยงการสนทนามากเกินไปหรือมีการพูดคุยเสียงดัง

4. ปิดหน้าต่างรถยนต์เสมอเพื่อลดเสียงรบกวนจากท้องถนน หรือเปิดโหมดเก็บเสียงสำหรับรถยนต์สมัยใหม่

5. ตั้งใจขับรถตลอดเวลา และไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ รวมทั้งการตอบข้อความ ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในปัจจุบัน

อย่าลืมไปตรวจเช็จการได้ยินและสายตาของคุณประจำปี ด้วยความปรารถดีจากเรา นอกจากจะช่วยให้คุณปลอดภัยแล้วยังช่วยทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกับคุณด้วยนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง
หูดับฉับพลันอย่านิ่งนอนใจ
อาการประสาทหูเสื่อมชนิดเฉียบพลัน หรือ Sudden HearingLOรร จะมีช่วงเวลาวิกฤต (Golden hour) ที่ต้องมาพบแพทย์อย่างเร่งด่วนภายใน 24-48 ชั่วโมงแรกหรือเ ร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม จะมีโอกาสที่จะกลับมาได้ยินเป็นปกติได้
เสียงในชีวิตประจำวัน
โดยทั่วไปแล้วเสียงที่เราได้ยิน กันในชีวิตประจำวัน จะมีความถี่อยู่ในช่วงระหว่าง 20-20,000 เฮิรตซ์ เสียงที่มีความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ หรือสูงกว่า 20,000 เฮิรตซ์ มนุษย์เราจะไม่ได้ยิน แต่สัตว์บางชนิดจะได้ยิน เช่น สุนัข สามารถได้ยินที่ความถี่ 15-50,000 เฮิรตซ์ แมวสามารถได้ยินที่ความถี่ 60-65,000 เฮิรตซ์ เป็นต้น
ทำไมสุขภาพการได้ยินจึงสำคัญ
ระบบต่างๆในร่างกายล้วนมีความเชื่อมโยงกับสมอง รวมถึงระบบการได้ยิน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคอยกระตุ้นการทำงานของสมองของคุณ เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อแขนขาของคุณที่ต้องหมั่นออกกำลังกาย เพื่อช่วยป้องกันการเสื่อมตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยคุณสามารถกระตุ้นการทำงานสมองของคุณได้หลากหลายวิธี เช่น การเล่นเกมส์ การแก้ปัญหาต่างๆ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นต้น
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy